วันเสาร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

บันทึกครั้งที่5



ความรู้ที่ได้รับ
-โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ
   ปัจจุบันสถานศึกษาทุกระดับทั่งโลก ต่างให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของพ่อแม่ ผู้ปกครองในการจัดการศึกษา การให้ความรู้กับผู้ปกครองจึงเป็นภารกิจที่สถานได้ดำเนินงานในรูปแบบที่แตกต่างไปในแต่ละประเทศ โดยที่แต่ละประเทศได้ดำเนินยุทธศาสตร์การให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง โดยยึดหลักความร่วมมือระหว่างบ้าน โรงเรียน ชุมชนและสังคมจากภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กปฐมวัยให้ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น
โครงการแม่สอนลูก
โครงการ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย
โครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความเข้มเเข็งของครอบครัว"บ้านล้อมรัก"
โครงการหนังสือเล่มแรก (Book start Thailand)
โครงการพัฒนาเด็กโดยครอบครัว
โครงการ การให้ความรู้ผู้ปกครองในต่างประเทศ
โครงการ การให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองในประเทศอิสราเอล
โครงการศูนย์ส่งเสริมประสบการณ์เด็กปฐมวัยที่เรียกว่า ALEH (Eary Childhood Enrichment Center)
โครงการเสนอแนะให้เเม่สอนลูก เลี้ยงลูกอย่างไรให้ถูกวิธี
โครงการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์สำหรับผู้ปกครองและเด็ก
โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศสหรัฐอเมริกา
โครงการศูนย์ข้อมูลพ่อแม่
โครงการ เฮดสตาร์ท (Head Start)
โครงการ โฮมสตาร์ท (Home Start Program )
โครงการสมาร์ท สตาร์ท (Smart Start)
โครงการ Brooklyne Early Childhood
โครงการให้ความรู้ผู้ปกครองในประเทศนิวซีแลนด์
โครงการ เพลย์เซ็นเตอร์
โครงการให้ความรู้แก่ผู้ปกครองในการจัดการศึกษาของโรงเรียน
โครงการ"พ่อแม่คือครูคนแรก" (Parents as First Teachers)
โครงการให้ความรู้พ่อแม่ผู้ปกครองประเทศออสเตรเลีย
โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศอังกฤษ(Bookstart U k) "ถุงบุ๊คสตาร์ท"
โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศญี่ปุ่น(Bookstart Japan)

   จากโครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศที่ได้ยกตัวอย่างมานั้น จะเห็นได้ว่าทุกประเทศให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาเด็กตั้งแต่เด็กปฐมวัย ซึ่งมีความสำคัญยิ่ง เป็นวัยแห่งการเริ่มต้นที่ดีของชีวิต พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องเป็นผู้ที่มีความพร้อมและมีคุณภาพในการดูแลเด็ก เพื่อให้เด็กได้เป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ 

คำถามท้ายบท
1.ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไรตอบ  ยึดหลักความร่วมมือระหว่างบ้าน โรงเรียน ชุมชนและสังคมจากภาครัฐและเอกชน เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพการศึกษาเด็กปฐมวัยให้ไปในทิศทางเดียวกัน

2. นักศึกษามีเเนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้เเก่ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม จงอธิบาย

ตอบ  เด็กที่ไม่ชอบอ่านหนังสือส่งเสริมด้วยการที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองอ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังหรือเปิดยูทูปนิทานสนุกๆให้ลูกได้ดูได้ฟังทุกวันก่อนนอนหรือเวลาว่างจะเป็นการทำให้เด็กได้ซึมซับภาพ เสียงของนิทานทุกๆวันจะทำให้เด็กอยากอ่านหนังสือเเละสนใจมากขึ้น

3. ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ให้ความรู้เเก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคต จงยกตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็ก มา 5 เรื่อง พร้อมอธิบายเเละยกตัวอย่างประกอบ

ตอบ   
•   กิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการทั้ง 4ด้าน ควรคำนึงถึงความเหมาะสมและความปลอดภัย
•   ส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยรักการอ่านโดยผู้ปกครองหานิทานสนุกๆมาเล่าให้ฟัง
•   การปฏิบัติกิจวัตรประจำวันของเด็กปฐมวัยกิจกรรมเช่น การเเต่งตัว โดยให้ลูกฝึกการช่วยเหลือตัวเองการโดยที่มีที่พ่อเเม่คอยแนะนำ
•   ปลูกฝังคุณธรรมให้เด็กโดยสอดแทรกไปในระหว่างเล่านิทาน
•   การลดพฤติกรรมก้าวร้าวของเด็กโดยการลดการเสริมแรง

4.การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไรจงอธิบาย

ตอบ  ส่งผลกับเด็กเพราะทุกพฤติกรรมของพ่อเเม่หรือผู้ปกครองที่เเสดงออกมาเมื่อเด็กเห็นจะเกิดการทำตามหรือเลียนเเบบพฤติกรรมทั้งที่เป็นพฤติกรรมดีเเละพฤติกรรมไม่ดีเช่น การพูดจาที่สุภาพของพ่อเเม่เมื่อลูกฟังทุกวันจะเกิดการซึมซับคำพูดที่สภาพตามพ่อเเม่

5.นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้เเก่ผู้ปกครองอย่างไร จงอธิบาย

ตอบ  การพูดคุยกับพ่อแม่หรือผู้ปกครอง การเยี่ยมบ้านเพื่อสอบถามพฤติกรรมหลังจากได้รับความรู้ไปแล้วว่าพฤติกรรมของลูกมีการเปลี่ยนแปลง
ประเมินตนเอง : ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรงเวลา แต่งกายเรียบร้อย
ประเมินเพื่อน : เพื่อนๆตั้งใจเรียน เข้าตรงเวลา
ประเมินอาจารย์ : อาจารย์สอนอธิบายเนื้อหาได้เข้าใจและตรงต่อเวลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บันทึกครั้งที่13

👉 วันนี้อาจารย์ให้นักศึกษาแต่ละกลุ่มมานำเสนอหลังจากที่ไปจัดโครงการเพื่อเป็นการเเลกเปลี่ยนเรียนรู้กันดูข้อบกพร่องปัญญาของแต่ละกลุ่ม ...